SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก ดันคีย์เวิร์ดจากไม่ติด 1 ใน 100

SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก ดันคีย์เวิร์ดจากไม่ติด 1 ใน 100

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นคำที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้จักกัน แต่ว่าจะทำยังไงให้ติดหน้าแรกนั้น มีหลายตำรา หลายอาจารย์ และมีหลายโค้ช ซึ่งแต่ละที่นั้นไม่เคยจะเหมือนกันเลย เพราะประสบการณ์ในการทำ SEO ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และบทความนี้ผมก็มาแชร์ประสบการณ์การทำ SEO จากคีย์เวิร์ดการแข่งขันสูง ที่เริ่มจากไม่ติดผลการค้นหา 1 ใน 100 ( Not Found in top 100! ) ของผลการค้นหาในหน้า Google Search เลย จนมาถึงหน้าแรก

เริ่มต้นด้วย SEO Consult

เป็นปกติที่การทำงานอะไรที่ไม่สายงานหรืองานที่เกี่ยวข้องที่รับเราเข้าทำงาน จะเริ่มต้นด้วย consult เพราะมีประสบการณ์ ให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำได้ดี อธิบายได้เป็นขั้นเป็นตอน ต้องทำอะไรบ้าง 1 2 3 4 ด้วยการเริ่มจาก Tier Link Pyramid

SEO Tier Link Pyramid

Tier Link Pyramid คืออะไร?

Backlinks คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้คีย์เวิร์ดของเรามีอันดับที่สูงขึ้น และเมื่อมีการเชื่อมโยงกันระหว่างเว็บไซต์ จะเป็นการส่งสัญญาณไปยัง crawler ว่า เนื้อหาบทความมีความเกี่ยวข้องกัน โดย Tier Link Pyramid จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ

  1. Main Site เว็บไซต์ที่เราต้องการให้หน้านี้ติดผลการค้นหาของ Google Search ด้วยคีย์เวิร์ดที่เราต้องการ
  2. Tier 1 ควรเลือก Backlinks ที่มีค่า Domain Rating (DR) 80 ขึ้นไป เพื่อส่งไปยัง Main Site
  3. Tier 2 เป็นการเขียน Content ขึ้นมาเอง และนำไปโพสตามเว็บบอร์ด ต่าง ๆ ที่มีค่า Domain Rating (DR) อย่างน้อย 30 ขึ้นไป เพื่อส่งลิ้งก์ไปยัง Tier 1
  4. Tier 3 ใช้โปรแกรม Spint บทความ เพื่อส่งลิ้งก์ไปยัง Tier 2

เบื้องต้นเริ่มต้นด้วยการดันคีย์เวิร์ดเดือนแรกประมาณนี้ ในขั้นตอนนี้ผมเอะใจตั้งแต่การใช้โปรแกรม Sprint บทความแล้ว เพราะตามความเข้าใจคือ น่าจะเป็น Spam บทความ กับ คีย์เวิร์ด Google ไม่น่าจะชอบ แต่ก็ทำตามไปก่อน เพราะผมเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ดันคีย์เวิร์ดให้ติดหน้าแรก แบบมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน

SEO On-Page Optimization

Main Site ต้องพร้อมสำหรับการขึ้นสู่หน้าแรก

เมื่อสรุปได้แล้วว่าใช้หน้าไหนเป็น Main Site ต่อมาก็ต้องปรับหน้าเว็บไซต์นี้ให้ดี หรือที่เรียกว่า On-Page Optimization ขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจสอบความพร้อมของหน้าเว็บไซต์ ดังนี้

  1. Content เนื้อหาของเว็บไซต์ที่ดีควรมีขนาดอย่างน้อย 1,400 – 1,500 คำขึ้นไป
  2. Meta Title และ Meta Description ไม่ใช้คำที่เป็น Clickbait แต่ใช้คำที่ตรงใจคนอ่าน เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในบทความ
  3. URL หน้าเว็บที่จะนำไปใช้เป็น Main Site มีการใช้ Keywords ใน URL และมีตัวเลข (Number) ด้วย
  4. Keywords and Semantically Related Words มีการใช้ คีย์เวิร์ดหลัก และ คีย์เวิร์ดรอง ใน Main Site
  5. Header tags ตรวจสอบดูว่า Main Site มี H1, H2, etc จะตรวจสอบเองหรือใช้ตัวช่วยตามสะดวก
  6. Internal Linking ภายในเว็บไซต์ของเรา มีการส่งลิ้งก์มายังหน้า Main Site นี้หรือไม่
  7. Duplicate Content เนื้อหาในหน้า Main Site ไม่มีซ้ำกับที่ไหน หรือ ก๊อปปี้ใครมา
  8. Crawlability เว็บไซต์ไม่มีการ Block จาก Bot ของ Search Engine
  9. Page Loading Speed เว็บไซต์มี PageSpeed เกิน 90/100 ของ Google PageSpeed Insights ผมมีเขียนบทความเกี่ยวกับ การปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100 อยู่นะครับ
  10. Mobile-Friendliness เว็บไซต์รองรับการแสดงผลในรูปแบบของมือถือ หรือที่เรียกว่า Responsive Website
  11. Readability ความถูกต้องของข้อความคือสิ่งสำคัญ ไม่มีพิมพ์คำผิด ไม่มีการพิมพ์ตกหล่น ต้อง Recheck ให้ดี แนะนำให้อ่านซ้ำ 3 – 5 รอบ
  12. Video Content มีการนำ Video มาใส่ประกอบบทความในหน้า Main Site
  13. Images รูปภาพในหน้า Main Site ไม่มีขนาดใหญ่ ผ่านการ Compression มาแล้ว ดีที่สุดควรแสดงผลในรูปแบบของ webp แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่าลืมใส่ Alt ของรูปภาพไปด้วย
  14. Social Sharing Buttons เมื่อบทความหรือเนื้อหาของเราดี ควรมีปุ่มกด Share ให้กับผู้ใช้ที่ชอบเนื้อหาบทความของเราแชร์ต่อไปยังคนรู้จัก เพื่อเพิ่ม Traffic มายังเว็บไซต์
  15. Markups มีการใช้เนื้อหาประเภท List ที่เป็นตัวเลข 1, 2, 3 และ 4 เป็นต้น

Checklists ตามด้านบนนี้เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามในการเริ่มต้นควรมีไกด์หรือคู่มือให้ทำตาม จากนั้นก็รอดูผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่า ดีหรือไม่ดี หากดีควรไปต่อ หากไม่ดีควรเลิกทำ

Excample Content Calendar

วางแพลนสร้าง Backlink

SEO Consult แนะนำมาให้ว่าต้องทำเป็นตารางการสร้าง Backlink มาว่าจะสร้างวันไหน 1 อาทิตย์ไม่ควรเกิน 3 ลิ้งก์ ไม่ควรสร้างลิ้งก์จำนวนมาก ๆ ใน 1 วัน บทความที่เขียนเองต้องติดตามได้ว่า Backlink ที่ไปลงเป็นอย่างไรบ้าง ลิ้งก์เสีย, ผู้ดูแลลบ หรือ เว็บปรับปรุง ทำให้ Backlink เสีย เข้าไปไม่ได้ เป็นต้น ศัพท์เทคนิคเรียกสิ่งนี้ว่า Content Calendar ที่จะเป็นตารางการสร้าง Backlink ว่ามีลิ้งก์อยู่ที่ไหนบ้าง ค่า DR เท่าไหร่ ลงวันที่เท่าไหร่

เริ่มลงมือทำ SEO

เดือนที่ 1 ผ่านไป ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?

ก่อนและหลังทำทำตาม Tier Link Pyramid เห็นผลได้อย่างชัดเจน ตอนไม่มีการ Optimize Keywods ในหน้า Main Site ผลการค้นหาใน Google Search ติด 1 ใน 100 บ้าง หายไปบ้าง แต่พอทำตาม Tier Link Pyramid ก็มีการติด 1 ใน 100

เดือนที่ 2 ลองปรับเปลี่ยนการทำงาน

ผมได้แจ้งกับทีมว่า ไม่โอเคกับ Tier 3 ที่เราจะต้อง Sprint บทความ มันเหมือนการทำ Spam Backlink และ เนื้อหาก็ไม่มีคุณภาพ แถมยังโพสไปยังเว็บไซต์ต่างประเทศ บทความของเราเป็นภาษาไทยนะ จะให้ไปโพสในเว็บไซต์ต่างประเทศได้ไง มันไม่ Make Sense เลยนะ ความเกี่ยวข้องข้องเนื้อหาไม่ต้องพูดถึงเลย เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ แต่เนื้อหาภาษาไทย จึงตกลงกันว่า งั้นลองเอาออก แล้วมาดูผลลัพธ์กันว่าจะเป็นอย่างไรต่อ

เดือนที่ 3 ลดการทำงาน

เนื่องจาก เดือนที่ 2 มีการลดขั้นตอนการ Sprint บทความที่ตามความเข้าใจของผมมันต้องเป็นการทำ Spam แน่นอน สิ่งนี้ Google ไม่น่าจะชอบ ผลลัพธ์ของเดือนที่ 2 คือ ยังติด 1 ใน 100 อยู่ มีการขยับของอันดับจาก 56 ไป 59 นิดหน่อย ไม่ขยับมาก ในเดือนที่ 3 เราจึงนำขั้นตอนการ Sprint บทความออกไปเลย ในเดือนต่อ ๆ ไปก็ไม่ต้องทำแล้ว

ใช้โปรแกรมเพิ่ม Traffic เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์

เดือนที่ 4 ใช้โปรแกรมช่วยเพิ่ม Traffic

ในเดือนนี้นอกจากขั้นตอนตามปกติ ผมได้ทดสอบใช้โปรแกรมเพิ่มแบบ Direct เข้าไป เวอร์ชั่นฟรี ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้เช่น มาจาก Google Search หรือว่ามาจาก Social Network ลองผิดลองถูกหลายโปรแกรม บางโปรแกรมก็เพิ่ม Traffic แบบเวอร์เลย 1 วันกระโดดไป 1,000 User ใน Google Analytics

เดือนที่ 5 เปลี่ยนโปรแกรมช่วยเพิ่ม Traffic ใหม่

เดือนนี้เจอโปรแกรมเพิ่ม Traffic ที่ไม่เวอร์มาก และยังสามารถใส่ URL ลงไปแล้วใน Google Analytics ขึ้นแหล่งที่มาว่ามาจาก google / organic ด้วย ผมนี่ยิ้มเลย ในรายงานคีย์เวิร์ดของเดือนที่ 5 คีย์เวิร์ดมี Impression ขึ้นสูงไปถึง 700 เกือบ 800 เลยทีเดียว จากปกติจะแสดงแค่ 50 ถึง 100 ประมาณนี้

ปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100

เดือนที่ 6 ปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/10

เดือนที่ 6 นี้ทำแบบเดียวกับเดือนที่ 5 คือ เขียนบทความโพสลงเว็บบอร์ด และ เปิดโปแกรมเพิ่ม Traffic พร้อมกับปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100 ไม่อยากเชื่อว่าผลลัพธ์ดีขึ้นมาก กระโดดมาอันดับที่ 13 อยู่หน้าที่ 2 แล้วนะครับตอนนี้

เดือนที่ 7 โฮส หมดอายุ!!

โอ้วแม่จ้าววว ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อแล้วครับแบบนี้ เกิดเหตุไม่คาดฝัน โดเมนเนมหมดอายุ แล้วไม่ได้ต่อ ช่วงประมาณวันที่ 20 ติดเสาร์ อาทิตย์ อีกต่างหาก กว่าจะรู้ตัวก็วันจันทร์แล้วครับ งานนี้ไม่ปลื้มอย่างมากเลย อันดับตกจาก 13 ไป 55 เลยคร๊าบ 555 ( หัวเราะทั้งน้ำตา ) จึงมีผลกับ SEO ทันทีเลย เราจึงปรับตัวด้วยการใช้ Goole Calendar แจ้งเตือน โดเมน และ โฮส ก่อนหมดอายุ 15 วัน หรือ 2 อาทิตย์ จะได้เตรียมตัวเรื่องการจ่ายเงิน

เดือนที่ 8 ทำตัวปกติไม่เคลื่อนไหว

เดือนนี้ทำตัวสงบเสงี่ยมมาก ไม่ใช้โปรแกรมอะไรช่วยเพิ่ม Traffic ลงบทความในเว็บบอร์ดประชาสัมพันธ์ปกติ สิ้นเดือนได้อันดับกลับมาที่ 38 ก็ยังดี จากอันดับ 55 ขึ้นมา 38 ขยับค่อนข้างเยอะ

ปรับแก้ไข Title และ Description ใหม่

เดือนที่ 10 ปรับ Title และ Description ใหม่!!

ในเดือนนี้ทางทีมคุยกันว่าตอนนี้อันดับเรามาอยู่ที่หน้า 2 ของผลการค้นหาแล้วนะ Impression ก็พุ่งขึ้นไป 800 กว่า ทำไมถึงมีคนคลิกเข้ามาในเว็บไซต์แค่ 1 ถึง 3 คน แค่นั้นเอง เราลองปรับ Title และ Description กันใหม่ดีไหม? เพื่อว่าผลลัพธ์จะดีขึ้น ในส่วนของ SEO เพียงแค่ คีย์เวิร์ด มีอยู่ที่ Title, Description and Content และทั้ง 3 ส่วนเกี่ยวข้องกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคยปรับเว็บไซต์อื่นในเครือของเราแล้ว ก็ยังอยู่หน้าแรกเหมือนเดิม

เดือนที่ 11 สร้าง Backlink อย่างเดียว

ในเดือนนี้ทางทีมคุยกันว่างานในฝั่ง Content ค่อนข้างหนัก เดือนหน้าเราลองสร้าง Backlink น้อยลงดีไหม แล้วมาดูผลลัพธ์กันว่ามีการขยับขึ้นลงหรือเกิดการ Swing ของอันดับ SEO มากน้อยแค่ไหน

เดือนที่ 12 ทำน้อยลง

เป็นเดือนที่เอาบทความที่ฝั่ง Content ทำไว้ได้ประมาณ 3 ถึง 5 บทความมาสร้าง Backlink ต่อ แต่เดือนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเป็นพิเศษเพราะอันดับ SEO มาที่ 16 อยู่หน้า 2 เหมือนเดิมกับช่วงเดือนที่ 6 ที่มีอันดับอยู่ที่ 13 แล้ว

สถิติจาก Search Console เมื่อขึ้นหน้าแรก Google Search

เดือนที่ 13 ทะยานสู้หน้าแรกผลการค้นหา Google Search

Hooray! เราขึ้นมาหน้าแรกแล้วครับ ผมแคปรูปภาพส่งให้กับทีมว่าคีย์เวิร์ดที่เราทำตอนนี้มาอยู่ที่อันดับ 10 แล้วนะ จะอยู่ล่าง ๆ เลยเกือบตกไปหน้า 2 ประมาณนั้น แต่ก็อยู่หน้าแรกสำเร็จแล้ว เป็นเดือนที่อันดับพุ่งขึ้นไปสูงสุดอันดับที่ 5

ทำมาทั้งหมด 1 ปี ใช้เครื่องมืออะไรไปบ้าง?

พออ่านมาถึงตรงนี้ ผมขอเดาว่ามีคนที่อยากรู้ว่าผมใช้เครื่องมืออะไรไปบ้างในระหว่าง 1 ปีที่ทำ SEO นี้ ได้เลยครับ ผมไม่ได้หวงอะไรอยู่แล้ว ผมทำเว็บไซต์ nann.me ขึ้นมาก็เพื่อแชร์ความรู้และประสบการณ์ของผมอยู่แล้ว รายละเอียดเครื่องมือมีดังต่อไปนี้

เครื่องมือ หรือ Tools ทั้งหมดที่ผมนึกออกตอนใช้ตลอด 1 ปีที่ทำ SEO ครับ ลองดูได้ ตัวไหนน่าใช้ ตัวไหนไม่น่าใช้ อย่างเช่นตัว ahrefs นี่ควรใช้เลยครับ Free Plan ทำได้หลายอย่างอยู่เช่น Health Score ควรเข้ามาดูบ่อย ๆ เพราะใช้เวลาไม่มาก ผมทำ Bookmark เอาไว้ที่ Bookmark bar เลย จะได้เข้าไปดูง่าย ๆ หากมี issues ที่เป็น Error ควรรีบแก้โดยด่วน

จำนวนคนที่ค้นหาคำว่า รักษาสิว ใน Google Search

และทั้งหมดนี่ก็คือสิ่งที่ทำมาทั้งหมด 12 เดือน หรือ 1 ปี กับคีย์เวิร์ดที่ผมคิดว่ามีการแข่งขันสูง ณ ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่า คำจำกัดความของความของคำว่า คีย์เวิร์ดการแข่งขันสูง มีวิธีดูยังไง แต่ในความคิดของผมคือ คีย์เวิร์ดที่มีผลการค้นหาเกิน 1,000,000 ผมคิดว่า น่าจะเป็นคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูงนะครับ

ผมจึงคิดว่าคีย์เวิร์ด รักษาสิว มีผลการค้นหา 8,680,000 ที่ผมทำมาตั้งแต่ไม่ติดผลการค้นหา 1 ใน 100 โดยมีโจทย์ว่า คีย์เวิร์ด รักษาสิว และหน้าที่ต้องการให้แสดงหน้าแรก ทั้ง 2 อย่างค่อนข้างที่เฉพาะเจาะจงมาก ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ที่ผมที่ผมคิดนั้นไม่ผิดเลย ผมไม่ทำในสิ่งที่คิดว่าจะเป็นสแปม เพราะต้องการให้ติดหน้าแรกแล้วอยู่ได้ยาว ๆ ไม่ได้รับงานว่าจ้างแล้วติดหน้าพอติดแล้วอาจอยู่ได้ไม่ได้เพราะ Google ตรวจสอบได้ทีหลังว่าปั่นหรือ Fake มา

ระหว่างทางอาจมีลองผิดลองถูกบ้าง เพื่อทดสอบความรู้ว่าแต่ละเครื่องมือ หรือ Tools นั้น จำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือว่า ไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องมีสรุปผลเสมอ

สรุปทิ้งท้ายการทำ SEO ให้ขึ้นหน้าแรก

ในตอนเริ่มต้นไม่ควรศึกษาหลายตำรา หรืออ่านเยอะจนไม่รู้จะเชื่อตำราไหนดี ให้หยิบมาเลย 1 ตำรา ในที่นี้ผมเลือกทำตามคำแนะนำของ SEO Consult ใน 2 เดือนแรกเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการคุยกันภายในทีมว่าจะทดลองอะไร ผลเป็นยังไง ดีหรือไม่ดี ต้องมีสรุปทุกเดือนว่าทำอะไรไปบ้าง

ขยันอัปเดตความรู้ให้มาก แนะนำให้อ่านบทความเกี่ยวกับพวก Checklist อ่านดูว่ามีสิ่งไหนที่เรายังไม่ได้ลองทำบ้าง ตอนปรับ PageSpeed ผมก็ได้รับข้อมูลว่า Core Web Vitals จะกลายเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้อันดับผลการค้นหาดีขึ้น ก็ต้องมาลองผิดลองถูกใช้ปลั๊กอินตัวนู๊น ตัวนี้ โฮสช้า PHP Version ต่ำ ลองหาผู้ให้บริการด้านการ Optimize มีหรือป่าว จนไปเจอเข้ากับ nitropack.io ตัวนี้ดีมากสำหรับคนที่ใช้เงินแก้ไขปัญหา ไม่ต้องใช้เทคนิคมาก

สุดท้ายนี้ คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับสุขภาพด้วย เลยทำให้เราทำทุกอย่าง โดยไม่เร่งรีบ ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ อัปเดตความรู้บ่อย ๆ อ่านบทความที่เป็นภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับปัจจัยหลัก หรือ Google Algorithm ดูว่าอัปเดตเรื่องอะไรบ้าง ถ้าอ่านไม่ออกก็ใช้ Google Translate ค่อย ๆ แปล แล้วจับใจความ จากนั้นนำมาเรียบเรียง เพื่อทำความเข้าใจ จากนั้นก็ ลงมือทำครับ