![SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก ดันคีย์เวิร์ดจากไม่ติด 1 ใน 100](https://ik.imagekit.io/vf4tall9b/share-experience-improve-seo-ranking-to-top-10-feature-image_k30uHTegp.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659942828433)
SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นคำที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้จักกัน แต่ว่าจะทำยังไงให้ติดหน้าแรกนั้น มีหลายตำรา หลายอาจารย์ และมีหลายโค้ช ซึ่งแต่ละที่นั้นไม่เคยจะเหมือนกันเลย เพราะประสบการณ์ในการทำ SEO ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และบทความนี้ผมก็มาแชร์ประสบการณ์การทำ SEO จากคีย์เวิร์ดการแข่งขันสูง ที่เริ่มจากไม่ติดผลการค้นหา 1 ใน 100 ( Not Found in top 100! ) ของผลการค้นหาในหน้า Google Search เลย จนมาถึงหน้าแรก
เริ่มต้นด้วย SEO Consult
เป็นปกติที่การทำงานอะไรที่ไม่สายงานหรืองานที่เกี่ยวข้องที่รับเราเข้าทำงาน จะเริ่มต้นด้วย consult เพราะมีประสบการณ์ ให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำได้ดี อธิบายได้เป็นขั้นเป็นตอน ต้องทำอะไรบ้าง 1 2 3 4 ด้วยการเริ่มจาก Tier Link Pyramid
![SEO Tier Link Pyramid](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/TieredLinkBuilding_aECyfZ-g6.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133252070)
Tier Link Pyramid คืออะไร?
Backlinks คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้คีย์เวิร์ดของเรามีอันดับที่สูงขึ้น และเมื่อมีการเชื่อมโยงกันระหว่างเว็บไซต์ จะเป็นการส่งสัญญาณไปยัง crawler ว่า เนื้อหาบทความมีความเกี่ยวข้องกัน โดย Tier Link Pyramid จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ
- Main Site เว็บไซต์ที่เราต้องการให้หน้านี้ติดผลการค้นหาของ Google Search ด้วยคีย์เวิร์ดที่เราต้องการ
- Tier 1 ควรเลือก Backlinks ที่มีค่า Domain Rating (DR) 80 ขึ้นไป เพื่อส่งไปยัง Main Site
- Tier 2 เป็นการเขียน Content ขึ้นมาเอง และนำไปโพสตามเว็บบอร์ด ต่าง ๆ ที่มีค่า Domain Rating (DR) อย่างน้อย 30 ขึ้นไป เพื่อส่งลิ้งก์ไปยัง Tier 1
- Tier 3 ใช้โปรแกรม Spint บทความ เพื่อส่งลิ้งก์ไปยัง Tier 2
เบื้องต้นเริ่มต้นด้วยการดันคีย์เวิร์ดเดือนแรกประมาณนี้ ในขั้นตอนนี้ผมเอะใจตั้งแต่การใช้โปรแกรม Sprint บทความแล้ว เพราะตามความเข้าใจคือ น่าจะเป็น Spam บทความ กับ คีย์เวิร์ด Google ไม่น่าจะชอบ แต่ก็ทำตามไปก่อน เพราะผมเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ดันคีย์เวิร์ดให้ติดหน้าแรก แบบมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน
![SEO On-Page Optimization](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/on-page-seo-info_ErGK9C4Sw.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133250312)
Main Site ต้องพร้อมสำหรับการขึ้นสู่หน้าแรก
เมื่อสรุปได้แล้วว่าใช้หน้าไหนเป็น Main Site ต่อมาก็ต้องปรับหน้าเว็บไซต์นี้ให้ดี หรือที่เรียกว่า On-Page Optimization ขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจสอบความพร้อมของหน้าเว็บไซต์ ดังนี้
- Content เนื้อหาของเว็บไซต์ที่ดีควรมีขนาดอย่างน้อย 1,400 – 1,500 คำขึ้นไป
- Meta Title และ Meta Description ไม่ใช้คำที่เป็น Clickbait แต่ใช้คำที่ตรงใจคนอ่าน เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในบทความ
- URL หน้าเว็บที่จะนำไปใช้เป็น Main Site มีการใช้ Keywords ใน URL และมีตัวเลข (Number) ด้วย
- Keywords and Semantically Related Words มีการใช้ คีย์เวิร์ดหลัก และ คีย์เวิร์ดรอง ใน Main Site
- Header tags ตรวจสอบดูว่า Main Site มี H1, H2, etc จะตรวจสอบเองหรือใช้ตัวช่วยตามสะดวก
- Internal Linking ภายในเว็บไซต์ของเรา มีการส่งลิ้งก์มายังหน้า Main Site นี้หรือไม่
- Duplicate Content เนื้อหาในหน้า Main Site ไม่มีซ้ำกับที่ไหน หรือ ก๊อปปี้ใครมา
- Crawlability เว็บไซต์ไม่มีการ Block จาก Bot ของ Search Engine
- Page Loading Speed เว็บไซต์มี PageSpeed เกิน 90/100 ของ Google PageSpeed Insights ผมมีเขียนบทความเกี่ยวกับ การปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100 อยู่นะครับ
- Mobile-Friendliness เว็บไซต์รองรับการแสดงผลในรูปแบบของมือถือ หรือที่เรียกว่า Responsive Website
- Readability ความถูกต้องของข้อความคือสิ่งสำคัญ ไม่มีพิมพ์คำผิด ไม่มีการพิมพ์ตกหล่น ต้อง Recheck ให้ดี แนะนำให้อ่านซ้ำ 3 – 5 รอบ
- Video Content มีการนำ Video มาใส่ประกอบบทความในหน้า Main Site
- Images รูปภาพในหน้า Main Site ไม่มีขนาดใหญ่ ผ่านการ Compression มาแล้ว ดีที่สุดควรแสดงผลในรูปแบบของ webp แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่าลืมใส่ Alt ของรูปภาพไปด้วย
- Social Sharing Buttons เมื่อบทความหรือเนื้อหาของเราดี ควรมีปุ่มกด Share ให้กับผู้ใช้ที่ชอบเนื้อหาบทความของเราแชร์ต่อไปยังคนรู้จัก เพื่อเพิ่ม Traffic มายังเว็บไซต์
- Markups มีการใช้เนื้อหาประเภท List ที่เป็นตัวเลข 1, 2, 3 และ 4 เป็นต้น
Checklists ตามด้านบนนี้เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามในการเริ่มต้นควรมีไกด์หรือคู่มือให้ทำตาม จากนั้นก็รอดูผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่า ดีหรือไม่ดี หากดีควรไปต่อ หากไม่ดีควรเลิกทำ
![Excample Content Calendar](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/content-calendar-example_xR546BlBL.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133249768)
วางแพลนสร้าง Backlink
SEO Consult แนะนำมาให้ว่าต้องทำเป็นตารางการสร้าง Backlink มาว่าจะสร้างวันไหน 1 อาทิตย์ไม่ควรเกิน 3 ลิ้งก์ ไม่ควรสร้างลิ้งก์จำนวนมาก ๆ ใน 1 วัน บทความที่เขียนเองต้องติดตามได้ว่า Backlink ที่ไปลงเป็นอย่างไรบ้าง ลิ้งก์เสีย, ผู้ดูแลลบ หรือ เว็บปรับปรุง ทำให้ Backlink เสีย เข้าไปไม่ได้ เป็นต้น ศัพท์เทคนิคเรียกสิ่งนี้ว่า Content Calendar ที่จะเป็นตารางการสร้าง Backlink ว่ามีลิ้งก์อยู่ที่ไหนบ้าง ค่า DR เท่าไหร่ ลงวันที่เท่าไหร่
![เริ่มลงมือทำ SEO](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/seo-work-process-for-new-website_utbfZotap.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133251166)
เดือนที่ 1 ผ่านไป ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?
ก่อนและหลังทำทำตาม Tier Link Pyramid เห็นผลได้อย่างชัดเจน ตอนไม่มีการ Optimize Keywods ในหน้า Main Site ผลการค้นหาใน Google Search ติด 1 ใน 100 บ้าง หายไปบ้าง แต่พอทำตาม Tier Link Pyramid ก็มีการติด 1 ใน 100
เดือนที่ 2 ลองปรับเปลี่ยนการทำงาน
ผมได้แจ้งกับทีมว่า ไม่โอเคกับ Tier 3 ที่เราจะต้อง Sprint บทความ มันเหมือนการทำ Spam Backlink และ เนื้อหาก็ไม่มีคุณภาพ แถมยังโพสไปยังเว็บไซต์ต่างประเทศ บทความของเราเป็นภาษาไทยนะ จะให้ไปโพสในเว็บไซต์ต่างประเทศได้ไง มันไม่ Make Sense เลยนะ ความเกี่ยวข้องข้องเนื้อหาไม่ต้องพูดถึงเลย เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ แต่เนื้อหาภาษาไทย จึงตกลงกันว่า งั้นลองเอาออก แล้วมาดูผลลัพธ์กันว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
เดือนที่ 3 ลดการทำงาน
เนื่องจาก เดือนที่ 2 มีการลดขั้นตอนการ Sprint บทความที่ตามความเข้าใจของผมมันต้องเป็นการทำ Spam แน่นอน สิ่งนี้ Google ไม่น่าจะชอบ ผลลัพธ์ของเดือนที่ 2 คือ ยังติด 1 ใน 100 อยู่ มีการขยับของอันดับจาก 56 ไป 59 นิดหน่อย ไม่ขยับมาก ในเดือนที่ 3 เราจึงนำขั้นตอนการ Sprint บทความออกไปเลย ในเดือนต่อ ๆ ไปก็ไม่ต้องทำแล้ว
![ใช้โปรแกรมเพิ่ม Traffic เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/traffic-exchange_s67uZD-eJ.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133252533)
เดือนที่ 4 ใช้โปรแกรมช่วยเพิ่ม Traffic
ในเดือนนี้นอกจากขั้นตอนตามปกติ ผมได้ทดสอบใช้โปรแกรมเพิ่มแบบ Direct เข้าไป เวอร์ชั่นฟรี ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้เช่น มาจาก Google Search หรือว่ามาจาก Social Network ลองผิดลองถูกหลายโปรแกรม บางโปรแกรมก็เพิ่ม Traffic แบบเวอร์เลย 1 วันกระโดดไป 1,000 User ใน Google Analytics
เดือนที่ 5 เปลี่ยนโปรแกรมช่วยเพิ่ม Traffic ใหม่
เดือนนี้เจอโปรแกรมเพิ่ม Traffic ที่ไม่เวอร์มาก และยังสามารถใส่ URL ลงไปแล้วใน Google Analytics ขึ้นแหล่งที่มาว่ามาจาก google / organic ด้วย ผมนี่ยิ้มเลย ในรายงานคีย์เวิร์ดของเดือนที่ 5 คีย์เวิร์ดมี Impression ขึ้นสูงไปถึง 700 เกือบ 800 เลยทีเดียว จากปกติจะแสดงแค่ 50 ถึง 100 ประมาณนี้
![ปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/1_EIOoEGOx10Rv5dpcni-rxg_O8pW0ldmN.jpeg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133249627)
เดือนที่ 6 ปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/10
เดือนที่ 6 นี้ทำแบบเดียวกับเดือนที่ 5 คือ เขียนบทความโพสลงเว็บบอร์ด และ เปิดโปแกรมเพิ่ม Traffic พร้อมกับปรับ PageSpeed ให้ได้เกิน 90/100 ไม่อยากเชื่อว่าผลลัพธ์ดีขึ้นมาก กระโดดมาอันดับที่ 13 อยู่หน้าที่ 2 แล้วนะครับตอนนี้
เดือนที่ 7 โฮส หมดอายุ!!
โอ้วแม่จ้าววว ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อแล้วครับแบบนี้ เกิดเหตุไม่คาดฝัน โดเมนเนมหมดอายุ แล้วไม่ได้ต่อ ช่วงประมาณวันที่ 20 ติดเสาร์ อาทิตย์ อีกต่างหาก กว่าจะรู้ตัวก็วันจันทร์แล้วครับ งานนี้ไม่ปลื้มอย่างมากเลย อันดับตกจาก 13 ไป 55 เลยคร๊าบ 555 ( หัวเราะทั้งน้ำตา ) จึงมีผลกับ SEO ทันทีเลย เราจึงปรับตัวด้วยการใช้ Goole Calendar แจ้งเตือน โดเมน และ โฮส ก่อนหมดอายุ 15 วัน หรือ 2 อาทิตย์ จะได้เตรียมตัวเรื่องการจ่ายเงิน
เดือนที่ 8 ทำตัวปกติไม่เคลื่อนไหว
เดือนนี้ทำตัวสงบเสงี่ยมมาก ไม่ใช้โปรแกรมอะไรช่วยเพิ่ม Traffic ลงบทความในเว็บบอร์ดประชาสัมพันธ์ปกติ สิ้นเดือนได้อันดับกลับมาที่ 38 ก็ยังดี จากอันดับ 55 ขึ้นมา 38 ขยับค่อนข้างเยอะ
![ปรับแก้ไข Title และ Description ใหม่](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/google-title-meta-description_Km_jll8a2.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133249733)
เดือนที่ 10 ปรับ Title และ Description ใหม่!!
ในเดือนนี้ทางทีมคุยกันว่าตอนนี้อันดับเรามาอยู่ที่หน้า 2 ของผลการค้นหาแล้วนะ Impression ก็พุ่งขึ้นไป 800 กว่า ทำไมถึงมีคนคลิกเข้ามาในเว็บไซต์แค่ 1 ถึง 3 คน แค่นั้นเอง เราลองปรับ Title และ Description กันใหม่ดีไหม? เพื่อว่าผลลัพธ์จะดีขึ้น ในส่วนของ SEO เพียงแค่ คีย์เวิร์ด มีอยู่ที่ Title, Description and Content และทั้ง 3 ส่วนเกี่ยวข้องกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคยปรับเว็บไซต์อื่นในเครือของเราแล้ว ก็ยังอยู่หน้าแรกเหมือนเดิม
เดือนที่ 11 สร้าง Backlink อย่างเดียว
ในเดือนนี้ทางทีมคุยกันว่างานในฝั่ง Content ค่อนข้างหนัก เดือนหน้าเราลองสร้าง Backlink น้อยลงดีไหม แล้วมาดูผลลัพธ์กันว่ามีการขยับขึ้นลงหรือเกิดการ Swing ของอันดับ SEO มากน้อยแค่ไหน
เดือนที่ 12 ทำน้อยลง
เป็นเดือนที่เอาบทความที่ฝั่ง Content ทำไว้ได้ประมาณ 3 ถึง 5 บทความมาสร้าง Backlink ต่อ แต่เดือนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเป็นพิเศษเพราะอันดับ SEO มาที่ 16 อยู่หน้า 2 เหมือนเดิมกับช่วงเดือนที่ 6 ที่มีอันดับอยู่ที่ 13 แล้ว
![สถิติจาก Search Console เมื่อขึ้นหน้าแรก Google Search](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/Screenshot_1_vKkAEjTiT.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133250617)
เดือนที่ 13 ทะยานสู้หน้าแรกผลการค้นหา Google Search
Hooray! เราขึ้นมาหน้าแรกแล้วครับ ผมแคปรูปภาพส่งให้กับทีมว่าคีย์เวิร์ดที่เราทำตอนนี้มาอยู่ที่อันดับ 10 แล้วนะ จะอยู่ล่าง ๆ เลยเกือบตกไปหน้า 2 ประมาณนั้น แต่ก็อยู่หน้าแรกสำเร็จแล้ว เป็นเดือนที่อันดับพุ่งขึ้นไปสูงสุดอันดับที่ 5
ทำมาทั้งหมด 1 ปี ใช้เครื่องมืออะไรไปบ้าง?
พออ่านมาถึงตรงนี้ ผมขอเดาว่ามีคนที่อยากรู้ว่าผมใช้เครื่องมืออะไรไปบ้างในระหว่าง 1 ปีที่ทำ SEO นี้ ได้เลยครับ ผมไม่ได้หวงอะไรอยู่แล้ว ผมทำเว็บไซต์ nann.me ขึ้นมาก็เพื่อแชร์ความรู้และประสบการณ์ของผมอยู่แล้ว รายละเอียดเครื่องมือมีดังต่อไปนี้
- ahrefs.com
- semrush.com
- serpmojo.com
- organichits.co
- rankboostup.com
- nitropack.io
- Ubersuggest
- moneyrobot.com
- Google Sheet
- sitechecker.pro
- Campaign URL Builder
เครื่องมือ หรือ Tools ทั้งหมดที่ผมนึกออกตอนใช้ตลอด 1 ปีที่ทำ SEO ครับ ลองดูได้ ตัวไหนน่าใช้ ตัวไหนไม่น่าใช้ อย่างเช่นตัว ahrefs นี่ควรใช้เลยครับ Free Plan ทำได้หลายอย่างอยู่เช่น Health Score ควรเข้ามาดูบ่อย ๆ เพราะใช้เวลาไม่มาก ผมทำ Bookmark เอาไว้ที่ Bookmark bar เลย จะได้เข้าไปดูง่าย ๆ หากมี issues ที่เป็น Error ควรรีบแก้โดยด่วน
![จำนวนคนที่ค้นหาคำว่า รักษาสิว ใน Google Search](https://ik.imagekit.io/nanndev/p-58/top-10-keywords-acne-treatments_xoAlWfSHB.jpg?ik-sdk-version=javascript-1.4.3&updatedAt=1659133252139)
และทั้งหมดนี่ก็คือสิ่งที่ทำมาทั้งหมด 12 เดือน หรือ 1 ปี กับคีย์เวิร์ดที่ผมคิดว่ามีการแข่งขันสูง ณ ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่า คำจำกัดความของความของคำว่า คีย์เวิร์ดการแข่งขันสูง มีวิธีดูยังไง แต่ในความคิดของผมคือ คีย์เวิร์ดที่มีผลการค้นหาเกิน 1,000,000 ผมคิดว่า น่าจะเป็นคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูงนะครับ
ผมจึงคิดว่าคีย์เวิร์ด รักษาสิว มีผลการค้นหา 8,680,000 ที่ผมทำมาตั้งแต่ไม่ติดผลการค้นหา 1 ใน 100 โดยมีโจทย์ว่า คีย์เวิร์ด รักษาสิว และหน้าที่ต้องการให้แสดงหน้าแรก ทั้ง 2 อย่างค่อนข้างที่เฉพาะเจาะจงมาก ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ที่ผมที่ผมคิดนั้นไม่ผิดเลย ผมไม่ทำในสิ่งที่คิดว่าจะเป็นสแปม เพราะต้องการให้ติดหน้าแรกแล้วอยู่ได้ยาว ๆ ไม่ได้รับงานว่าจ้างแล้วติดหน้าพอติดแล้วอาจอยู่ได้ไม่ได้เพราะ Google ตรวจสอบได้ทีหลังว่าปั่นหรือ Fake มา
ระหว่างทางอาจมีลองผิดลองถูกบ้าง เพื่อทดสอบความรู้ว่าแต่ละเครื่องมือ หรือ Tools นั้น จำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือว่า ไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องมีสรุปผลเสมอ
สรุปทิ้งท้ายการทำ SEO ให้ขึ้นหน้าแรก
ในตอนเริ่มต้นไม่ควรศึกษาหลายตำรา หรืออ่านเยอะจนไม่รู้จะเชื่อตำราไหนดี ให้หยิบมาเลย 1 ตำรา ในที่นี้ผมเลือกทำตามคำแนะนำของ SEO Consult ใน 2 เดือนแรกเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการคุยกันภายในทีมว่าจะทดลองอะไร ผลเป็นยังไง ดีหรือไม่ดี ต้องมีสรุปทุกเดือนว่าทำอะไรไปบ้าง
ขยันอัปเดตความรู้ให้มาก แนะนำให้อ่านบทความเกี่ยวกับพวก Checklist อ่านดูว่ามีสิ่งไหนที่เรายังไม่ได้ลองทำบ้าง ตอนปรับ PageSpeed ผมก็ได้รับข้อมูลว่า Core Web Vitals จะกลายเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้อันดับผลการค้นหาดีขึ้น ก็ต้องมาลองผิดลองถูกใช้ปลั๊กอินตัวนู๊น ตัวนี้ โฮสช้า PHP Version ต่ำ ลองหาผู้ให้บริการด้านการ Optimize มีหรือป่าว จนไปเจอเข้ากับ nitropack.io ตัวนี้ดีมากสำหรับคนที่ใช้เงินแก้ไขปัญหา ไม่ต้องใช้เทคนิคมาก
สุดท้ายนี้ คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับสุขภาพด้วย เลยทำให้เราทำทุกอย่าง โดยไม่เร่งรีบ ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ อัปเดตความรู้บ่อย ๆ อ่านบทความที่เป็นภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับปัจจัยหลัก หรือ Google Algorithm ดูว่าอัปเดตเรื่องอะไรบ้าง ถ้าอ่านไม่ออกก็ใช้ Google Translate ค่อย ๆ แปล แล้วจับใจความ จากนั้นนำมาเรียบเรียง เพื่อทำความเข้าใจ จากนั้นก็ ลงมือทำครับ